ทานอาหารตามธาตุ ศาสตร์แห่งแพทย์แผนไทย

4-elements.jpg
วันนี้ ได้มีโอกาสแวะไปชิมอาหารอร่อยที่ร้าน ยำแอนด์ตำ ที่ ไลฟ์ เซ็นเตอร์ กับเมนูที่มีชื่อน่าทานกันหลายอย่างเลยทีเดียว แถมในเมนูอาหารยังมีการกำกับถึงการเลือกรับประทานอาหารตามธาตุที่เหมาะกับตัวเอง ธาตุที่ว่ามีทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ … อ่านไปอ่านมาดูชักเข้าที เลยหาความรู้เพิ่มเติมแล้วนำมาฝากกันซักหน่อย

ศาสตร์การแพทย์แผนไทยได้บันทึกเอาไว้ ถึงธาตุประจำตัวของคนเราที่เกิดมา ว่ามีทั้งธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ แต่ละธาตุจะส่งผลถึงบุคลิก ลักษณะนิสัย รวมถึงสุขภาพที่แตกต่างกันออกไป และตามตำราแพทย์แผนไทย อาหารก็ถูกใช้เป็นยาด้วยเช่นกัน แต่จะต่างจากศาสตร์อื่นๆ เพราะเน้นหนักไปที่รสชาติของอาหารในการสร้างสมดุล พฤติกรรมการบริโภคตามศาสตร์ของแพทย์แผนไทยจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันอาการเจ็บป่วย
การแบ่งธาตุเจ้าเรือนตามตำราแพทย์แผนไทยจะดูจากเดือนเกิด นับเดือนธันวาคมเป็นเดือนแรก โดยนับช่วง 3 เดือนที่อยู่ติดกันย้อนกลับหลัง ถือเป็นธาตุเดียวกัน เริ่มจากธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม จนถึงธาตุไฟ เรียงตามลำดับ

ธาตุดิน (ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม) รสชาติที่เหมาะกับคนธาตุนี้ได้แก่ รสฝาด รสหวาน รสเค็ม คุณสมบัติของรสฝาดจะช่วยสมานแผลทั้งภายใน และภายนอก คุณสมบัติของรสหวานจะช่วยบำรุงกำลัง ให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ไม่อ่อนเพลีย ในขณะที่รสเค็ม จะช่วยแก้เรื่องโรคผิวหนัง และช่วยทำความสะอาดลำไส้ ผัก ผลไม้ ที่แนะนำได้แก่ มังคุด ฝรั่ง ฟักทอง เผือก ถั่วชนิดต่างๆ หัวมันเทศ กล้วยดิบ ยอดมะม่วงหิมพานต์ ผักหวาน ผักโขม สะตอ ดอกโสน เป็นต้น

ธาตุน้ำ (กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน) รสชาติที่เหมาะกับคนธาตุนี้ได้แก่ รสเปรี้ยว เพราะจะช่วยแก้เสมหะ และช่วยฟอกเลือด ผักผลไม้ ที่แนะนำสำหรับคนธาตุน้ำจะเน้นเปรี้ยวนำ เช่น มะนาว ส้ม สับปะรด มะยม มะกอก มะดัน กระท้อน ขี้เหล็ก มะอึก มะเขือเครือ สะเดาบ้าน มะระขี้นก มะแว้ง ใบยอ และ มะเขือเทศ

ธาตุลม (เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน) รสชาติที่เหมาะกับคนธาตุลมได้แก่ รสเผ็ดร้อน เพราะจะช่วยขับลม แก้อาการจุก แน่น ผักผลไม้ที่แนะนำสำหรับคนธาตุลมได้แก่ เมนูร้อนๆ อย่างขิง ข่า พริกไทย ขมิ้นชัน ชะพลู พริกขี้หนูสด สะระแหน่ กานพลู

ธาตุไฟ (มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม) รสอาหารที่เหมาะกับคนธาตุไฟคือ รสขม ที่จะช่วยบำรุงเลือด แก้ร้อนใน กระหายน้ำ แถมยังช่วยให้เจริญอาหารอีกด้วย เมนูที่จัดอยู่ในกลุ่มเย็น ที่จะช่วยดับไฟทำให้ใจชื้น และบำรุงหัวใจ รวมถึงรสจืด ที่จะช่วยขับปัสสาวะ ขับพิษ แก้ไข้ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ผักผลไม้ที่แนะนำสำหรับคนธาตุไฟ ได้แก่ แตงกวา มันแกว พุทรา แอปเปิ้ล ผักบุ้ง ตำลึง ผักกระเฉด สายบัว ผักกาดจีน มะระ มะรุม มะเขือยาว ยอดมันเทศ กระเจี๊ยบมอญ สะเดา ยอดฟักทอง หยวกกล้วย หม่อน มะเขือยาว กุ้ยช่าย เป็นต้นค่ะ

ความรู้จากศาสตร์การแพทย์แผนไทยแต่โบราณกาล ใช้อาหารต่างยาในการสร้างสมดุลย์ให้ร่างกายแข็งแรง ไร้โรคภัย กำลังกลับมาได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเพียงแค่เลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ เหมาะสมกับธาตุประจำตัว ก็จะช่วยป้องกันโรคทั้งหลาย เป็นทางเลือกที่ง่ายกว่าที่จะต้องใช้ยาหรือมารักษาอาการป่วยกันในภายหลังค่ะ

อาหารตามธาตุเจ้าเรือน ดิน น้ำ ลม ไฟ

IMG_33951

เคยนำเรื่องแพทย์แผนไทย และอาหารที่เหมาะกับชาวธาตุต่างๆ มาฝากกันแล้ว วันนี้มีโอกาสแวะชิมอาหารที่ร้าน ยำแอนด์ตำ ชั้น G ที่ Life Center เลยได้จังหวะ เจาะลึกลงรายละเอียดกันซักหน่อย ว่าแต่ละธาตุ จะเหมาะกับการดูแลตัวเองแบบไหน และอาหารเมนูไหนที่เหมาะกันบ้าง จะได้รับประทานอาหารให้เป็นยา เพื่อปรับสมดุลให้ร่างกายกันค่ะ

ทวนกันซักนิด ว่าใครมีธาตุอะไรกันบ้างนั้น ลองไล่อ่านกันดูเลยค่ะ จะอ่านเผื่อคนใกล้ตัว หรือคนที่เรารักก็ได้นะคะ จะได้แข็งแรงกันทั่วหน้า

“ธาตุไฟ”
เริ่มกันที่ธาตุที่ร้อนแรงที่สุด นั่นก็คือ “ธาตุไฟ” ผู้ที่อยู่ในธาตุไฟ คือ ผู้ที่เกิดในเดือน กุมภาพันธ์ มีนาคม และ เมษายน
ลักษณะของชาวธาตุไฟ คนธาตุนี้มักขี้ร้อน ใจร้อน อารมณ์ร้อน ระบบเผาผลาญอาหารดี จะหิวบ่อยทานเก่ง ผมหงอกเร็ว อาจจะหัวล้าน ข้อกระดูกหลวม และอาจมีกลิ่นปาก กลิ่นตัวแรง
รสอาหารที่เหมาะ คืออาหารที่มี รสขม และรสจืด ควรทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็น
ผัก ผลไม้สำหรับธาตุไฟ ได้แก่ เห็ดหูหนู ผักบุ้ง ตำลึง ผักกระเฉด สายบัว ผักกาด มะระ มะรุม มะเขือยาว ผักหนาม ยอดมันเทศ กระเจี๊ยบมอญ สะเดา ยอดฝักทอง หยวกกล้วย หม่อน มะเขือขาว กุ้ยช่าย
เมนูแนะนำ สำหรับชาวธาตุไฟ “ยำเห็ดหูหนูขาว”
สรรพคุณของเห็ดหูหนูขาวที่สำคัญ คือ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ เสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้การไหลเวียนเลือดของหัวใจดีขึ้น (ลดอาการหลอดเลือดหัวใจขาด ตีบตัน) มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ลดอาการแทรกซ้อนภายหลังการฉายแสงรักษาโรคมะเร็ง สามารถขจัดรอยย่นบนผิว ช่วยให้ผิวพรรณงดงามขึ้นเนื่องจากมีธาตุซีลีเนียมที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีกว่ำเบต้าแคโรทีน จึงช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์อีกด้วยค่ะ
นอกจากนั้นยังช่วยบำบัดอาการอ่อนเพลีย แก้อาการเบื่ออาหาร นอนไม่หลับ แก้ไอ แก้ร้อนใน ขับเสมหะ ช่วยระบายท้อง รักษาแผลในกระเพาะ บำรุงกระเพาะ ปอด และม้าม ช่วยให้เลือดแข็งตัว เส้นใยในเห็ดหูหนูขาวช่วยป้องกันมะเร็งกระเพาะ มะเร็งลำไส้ และ ริดสีดวงทวาร แคลเซียมในเห็ดหูหนูขาวช่วยบำรุงกระดูกและฟัน และเนื่องจากเห็ดหูหนูขาวมีแคลอรีต่ำ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก และวิตามินบีในเห็ดหูหนูขาวยังช่วยบำรุงสมองอีกด้วยค่ะ
เห็ดหูหนูขาวทานง่าย เพราะรสหวานอ่อนๆ เอามาทำเป็นอาหารก็ง่าย คลุกกับน้ำยำรสเข้มข้นก็ยิ่งอร่อย แบบนี้ทั้งอร่อย ทั้งดีต่อสุขภาพด้วยนะคะ

“ธาตุลม”
ถัดจากธาตุไฟที่ร้อนแรง มาดูกันต่อที่ธาตุลมกันดีกว่า ผู้ที่อยู่ในธาตุลม คือ ผู้ที่เกิดในเดือน พฤษภาคม มิถุนายน และ กรกฎาคม
ลักษณะของคนธาตุลม คนเกิดธาตุนี้มักเป็นคนอ่อนไหว เปลี่ยนแปลงเสมอ รูปร่างของผู้ที่อยู่ในธาตุลมจะ ค่อนข้างโปร่ง ดูอ่อนกว่าวัย ริมฝีปากอิ่ม ช่างพูด ดวงตากลมโต สดใส มีชีวิตชีวา ไม่ชอบอยู่นิ่ง นิสัยเป็นคนฉลาด ไหวพริบดี มีเสน่ห์งดงาม เกิดมาเพื่อเป็นผู้นำ สุขุมเยือกเย็น เข้าใจง่าย เรียนรู้ได้เร็ว แต่หากเมื่อใดก็ตามที่ธาตุขาดความสมดุล จะเป็นคนเอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ โมโหง่าย ไม่กล้าตัดสินใจ อารมณ์ไม่มั่นคง จึงต้องสร้างสมดุลให้กับผู้ที่อยู่ในธาตุนี้
รสอาหารที่เหมาะ คือ อาหารรสเผ็ด และ รสธรรมดา
ผัก ผลไม้สำหรับธาตุลม ได้แก่ ตะไคร้ เตยหอม บัว ขิง ข่า กระชาย พริกไทย โหระพา กะเพรา
เมนูแนะนำ สำหรับคนธาตุลม “ยำตะไคร้”
สรรพคุณของตะไคร้นั้นเป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยในการเจริญอาหาร ช่วยแก้อาการเบื่ออาหาร ตะไคร้มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยรักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยไล่ลมที่อยู่ในกระเพาะ และช่วยในการขับน้ำดีมาช่วยในการย่อยอาหารจึงเหมาะกับคนที่อยู่ในธาตุลมค่ะ

“ธาตุน้ำ”
มาถึงธาตุที่ 3 กัน กับธาตุน้ำ ผู้ที่อยู่ในธาตุน้ำคือ ผู้ที่เกิดในเดือน เดือนสิงหาคม กันยายน และ ตุลาคม
ลักษณะของคนธาตุน้ำ เป็นคนนิ่ง เยือกเย็น รูปร่างสมส่วน ผิวพรรณสดใสเต่งตึง เมื่อร่างกายมีความสมดุลจะมีความจำดี แต่หากเมื่อไหร่ธาตุไม่สมดุลจะเป็นคนเฉื่อยชา เกียจคร้าน ตัดสินใจช้า ไม่ค่อยเด็ดขาด อารมณ์เสียง่าย ใจอ่อน
รสอาหารที่เหมาะกับชาวธาตุน้ำ คือ อาหารรสเปรี้ยว
ผัก ผลไม้สำหรับชาวธาตุน้ำ ได้แก่ มะกรูด มะนาว ส้ม สับปะรด มะเขือเทศ
เมนูแนะนำสำหรับชาวธาตุน้ำ “ยำมะม่วง”
สรรพคุณของมะม่วง เนื่องจากมะม่วงมีวิตามินซีสูง จึงช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน นอกจากนั้นยังมีวิตามินเอ ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ช่วยบำรุงและรักษาสายตา เพราะอุดมไปด้วยวิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน ผลมะม่วงดิบมีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ มีส่วนช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ รวมไปถึงมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งเม็ดเลือด โรคมะเร็งผิวหนัง และไฟเบอร์ในมะม่วงยังเป็นตัวช่วยสำหรับการย่อยอาหาร และเผาผลาญพลังงานอีกด้วย อาหารรสเปรี้ยวคงช่วยให้คนธาตุน้ำกระปรี้กระเปล่า สดชื่นขึ้นนะคะ

“ธาตุดิน”
ธาติดิน สำหรับผู้ที่เกิดช่วงปลายปี คือผู้ที่เกิดในเดือน พฤศจิกายน ธันวาคม และ มกราคม
ลักษณะของคนธาตุดิน คนธาตุนี้มีความหนักแน่นมั่นคง รูปร่างสูงใหญ่ กระดูกใหญ่ น้ำหนักตัวมาก ผิวค่อนข้างคล้ำ บุคลิกโดดเด่นสง่างาม หากร่างกายสมดุลจะมีความสุขุมรอบคอบ มีเป้าหมายในชีวิต เฉลียวฉลาด ทะเยอทะยาน จิตใจหนักแน่น มีมนุษย์สัมพันธ์ดี กระตือรือร้น อดทนสูง เอื้อเฟื้อ มีเมตตา รักสงบ แต่ถ้าธาตุเสียสมดุล จะเกิดความขัดแย้งในตัวเอง ลังเล ขี้ใจน้อย ดื้อรั้น โกรธเกรี้ยว ฉุนเฉียว อารมณ์แรง
รสอาหารที่เหมาะ คือ อาหารรสฝาด หวาน มัน เค็ม
ผัก ผลไม้สำหรับชาวธาตุดิน ได้แก่ ผักกูด มังคุด ฝรั่งดิบ ฟักทอง ถั่วต่างๆ เงาะ น้ำนม น้ำอ้อย น้ำมะพร้าว เกลือ ฯลฯ
เมนูแนะนำสำหรับชาวธาตุดิน “ยำผักกูด”
ผักกูดอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก และเบตาแคโรทีน การรับประทานผักกูดร่วมกับเนื้อสัตว์จะช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุต่างๆ ได้ดีขึ้น และยังช่วยบำรุงร่างกายอีกด้วย จึงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเม็ดเลือด ช่วยบำรุงโลหิต เนื่องจากผักกูดเป็นผักที่มีธาตุเหล็กมากที่สุดเป็นอันดับ 1 จึงช่วยแก้โรคโลหิตจาง และช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี

เมนูต่างๆ ล้วนแต่มีคุณประโยชน์ที่แตกต่างกัน อยู่ที่เราจะเลือกทานเมนูไหนให้เหมาะ เพื่อปรับสมดุลให้ร่างกาย เมื่อทราบว่าตนเองอยู่ธาตุอะไรกันแล้ว อย่าลืมดูแลตนเองให้เหมาะกับธาตุนะคะ จะได้มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ ห่างไกลโรคร้ายทั้งปวงค่ะ