ซัมเมอร์นี้ มาอวดแผ่นหลังเนียนสวยไร้สิวกันดีกว่า

สาวๆ หลายๆ คน คงจะเคยกลุ้มอกกลุ้มใจจากร่องรอยของสิวที่แผ่นหลังกันมาบ้าง ก็เจ้าสิวตัวร้ายมักจะชอบทิ้งร่อยรอยไว้ให้ปวดใจ แถมแฟชั่นสมัยนี้ก็ช่างขยันออกแบบมาให้ต้องโชว์ผิวสวยๆ โดยเฉพาะผิวเนียนๆ ด้านหลังเนี่ย ยิ่งพอเข้าช่วงหน้าร้อน ถึงเวลาอวดชุดบิกินี่ที่สะสมไว้ก็ไม่มั่นใจเพราะเจ้าจุดเล็กจากสิวเนี่ยล่ะ
วันนี้ ก่อนจะไปถึงวิธีการรักษา แก้ไข เราลองมาดูสาเหตุกันก่อนดีกว่าค่ะ ว่าสิวเหล่านี้มาเกิดที่หลังเราได้อย่างไร

ตัวการก่อสิวให้หลังลาย

“เสื้อผ้า” ลองสังเกตดูสิคะ เวลาเราใส่เสื้อผ้าตัวหนึ่งแล้วรู้สึกสบาย แต่อีกตัวกลับใส่แล้วไม่สบาย นั่นเป็นเพราะเนื้อผ้าของเสื้อผ้าแต่ละตัวที่แตกต่างกันค่ะ บางตัวสามารถระบายความร้อนได้ดี ซึ่งก็จะช่วยให้ผิวของเราไม่อับชื้น ไม่เกิดการหมักหมมของคราบเหงื่อไคล ไม่เกิดการอุดตันในรูขุมขน อันเป็นสาเหตุให้เกิดสิวที่บริเวณหลังของเรา ก่อนจะใส่เสื้อตัวไหน เลือกสักนิดนะคะว่าควรจะเป็นเสื้อผ่าที่ระบายความร้อนได้ดี

“เครื่องนอน” จะหมอน ผ้าห่ม หมอนข้าง ตุ๊กตาบนเตียง รวมทั้งหมดเลยหละค่ะ เพราะกับเครื่องนอนเหล่านี้เราต้องขลุกอยู่กับมันหลายชั่วโมงเลยทีเดียว วันๆ นึงเรานอนกินเวลาเฉลี่ยแล้ว 8 ชั่วโมง ถ้าเราไม่ทำความสะอาดบ่อยๆ เชื้อแบคทีเรียก็จะสะสม เกิดความสกปรกกับผิวของเรา อีกสาเหตุหนึ่งของสิวค่ะ

“แชมพู สบู่” แชมพูที่เราสระผมมักจะไหลลงมาสู่แผ่นหลังของเราโดยตรงค่ะ นั่นหมายถึงคราบสกปรกทั้งหลายก็ไหลลงมาด้วย การอาบน้ำสระผมที่ดีจึงควรสระผมเสียก่อน แล้วจึงค่อยถูสบู่ เพื่อล้างความสกปรกออกไปอีกครั้ง ไม่ทิ้งให้ผิวสะสมความสกปรกเอาไว้ เกิดเป็นปัญหาสิวตามมา สำหรับสบู่นั้น คนสวนใหญ่มักใช้สบู่เหลว แต่รู้ไหมคะว่าสบู่เหลวมักผสมสารเคมีที่ทำให้ล้างออกจากผิวได้ยากกว่าสบู่ก้อน ใครเป็นสิวที่หลังขอแนะนำให้ใช้สบู่ก้อนจะเหมาะกว่าค่ะ เพราะไม่ทิ้งสารเคมีตกค้างไว้ให้อุดตันผิวสวยๆ

“อาหารมันๆ” อาหารมันๆ ทอดๆ ทั้งหลายนี่ล่ะค่ะ ตัวการของผิวมัน เลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันน้อยซักหน่อยนะคะ เพราะผิวมันจะทำให้ง่ายต่อการเกิดปัญหาสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันในผิว อีกสาเหตุสำคัญของสิวเลยล่ะค่ะ

พอจะรู้สาเหตุกันแล้วนะคะ ว่าสิวตัวร้ายมาปรากฏกายอยู่ที่หลังเราได้อย่างไร ทีนี้ก็ถึงเวลาแก้ปัญหา และป้องกันให้ถูกจุด บรรดาสิวทั้งหลายจะได้ไม่มาวุ่นวายกับเราอีก

“เสื้อผ้า” เลือกเสื้อผ้าที่มีเนื้อเบา โปร่งสบาย ระบายอากาศ เหมาะกับบ้านเมืองของเราที่มีอากาศร้อนชื้นค่ะ
“ผงซักฟอก” เลือกชนิดอ่อนๆ และล้างออกง่าย เพื่อที่จะได้ไม่ตกค้างที่เสื้อผ้าที่เราใส่
“สบู่” เลือกใช่สบู่ก้อนแบบป้องกันแบคทีเรีย ซึ่งจะช่วยยับยั้งตัวการที่ทำให้เกิดสิว
“ครีมนวดผม” ต้องเลือกแบบที่ไม่มีไขมัน หรือมีน้ำมันผสม เพราะถ้าล้างไม่หมดจะทำให้เกิดสิวตามมาแน่นอนค่ะ
“เช็ดผม” หลังอาบน้ำ สระผมเสร็จแล้ว สิ่งสำคัญคือการเป่าผม หรืเช็ดผมให้แห้งและอย่าให้ผมเปียกๆ ไปสัมผัสหลัง ความอับชื้นจะทำให้ผิวแพ้ง่ายค่ะ
“โทนเนอร์” ตัวช่วยที่ทำให้สิวหายเร็วขึ้น เพราะจะช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกิน และทำให้ผิวสะอาดขึ้น อาบน้ำเสร็จลองใช้โทนเนอร์เช็ดแผ่นหลังบริเวณที่เป็นสิว แนะนำให้ใช้ตัวเดียวกับที่เราใช้กับผิวหน้านี่ล่ะค่ะ จะได้ไม่เกิดอาการระคายเคืองหรือแพ้ และอาจจะใช้ยาแต้มสิวตัวเดียวกับผิวหน้าของเราเพื่อช่วยลดอาการสิวอักเสบด้วยก็ได้ค่ะ

ผิวสวยๆ จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ซัมเมอร์นี้ขอให้สาวๆ สนุกกับการอวดผิวและแผ่นหลังสวยๆ ต้อนรับลมร้อนกันให้เต็มที่เลยนะคะ

ทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ด้วยโปรตีนดีๆ จากพืช

p.jpg
ทุกวันนี้ผู้คนส่วนใหญ่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพตนเองกันมากขึ้น เห็นได้จากการที่หลายๆ คน เริ่มที่จะเลือกทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่าง Clean Food และ Raw Food รวมถึงหลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์อย่างเช่น การทานมังสวิรัติ กันเป็นประจำ
การหลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์ดังกล่าว ทำให้โปรตีนจากพืชเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายมากขึ้น เพราะร่างกายของเราจำเป็นต้องใช้โปรตีนในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมร่างกาย และใช้เป็นพลังงานเมื่อถึงคราวจำเป็น เรื่องราวสำหรับวันนี้ เลยขอเป็นเรื่องเกี่ยวกับแหล่งโปรตีนจากพืชที่ให้ประโยชน์กับร่างกาย นำมาฝากกันเพื่อเป็นทางเลือกในการสั่งอาหารจานโปรดครั้งต่อไป
ว่าแล้ว มาดูกันเลยค่ะ ว่าพืชผัก ผลไม้ ชนิดใด ให้โปรตีนดีๆ กับร่างกายเราบ้าง

อะโวคาโด้
มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ น้ำตาลต่ำ ทว่า อุดมไปด้วยโปรตีน ไฟเบอร์ และสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเช่น กรดไขมันชนิดที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ลดไขมันในเส้นเลือดสำหรับผู้ที่เป็นโรคไขมันในเลือดสูง เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน รวมทั้งมีวิตามินต่างๆ อย่าง วิตามิน A วิตามิน B วิตามิน E สารแอนตี้อ็อกซิแดนท์ แร่ธาตุต่างๆ อย่าง โซเดียม โพแทสเซียม และโฟเลต ที่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์รวมทั้งเด็กอ่อนอีกด้วยค่ะ

มะพร้าว
มะพร้าวถือเป็นแหล่งโปรตีนที่มีอยู่ตามธรรมชาติ และเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย ร่างกายสามารถดูดซึมได้เร็ว และช่วยให้พลังงานกับร่างกายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ มะพร้าว ยังมีวิตามินต่างๆ อย่าง วิตามิน C วิตามิน B กรดอะมิโน แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โปแทสเซียม เหล็ก รวมทั้งไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย

ถั่วเหลือง
แหล่งโปรตีนที่มีราคาย่อมเยา แต่อุดมไปด้วยสารอาหาร และวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทานแล้วอิ่มท้อง ทั้งยังให้พลังงาน และยังมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย

ถั่วดำ
คุณสมบัติพิเศษของถั่วดำที่หลายๆ คนต้องติดใจก็คือ สามารถช่วยลดความอ้วนได้ เนื่องจากในถั่วดำมีสัดส่วนของโปรตีนถึง 40% และมีกรดไขมันไม่อิ่มตัว 20% ถั่วดำ อุดมไปด้วยสารลดความอ้วน และสารที่ช่วยกำจัดสารพิษ นอกจากนั้นยังมีแคลเซียมสูง ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง และยังมีคุณค่าทางอาหารจาก วิตามิน B12 วิตามิน B9 กรดโฟลิก รวมทั้งธาตุเหล็กที่สูงกว่าเนื้อสัตว์ถึง 4 เท่า จึงเหมาะกับผู้เป็นโรคโลหิตจางเป็นพิเศษค่ะ

ลูกบัว
ธัญพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และมีโปรตีนมากกว่าข้าวถึง 3 เท่า เป็นแหล่งรวมของวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด อย่าง วิตามิน A วิตามิน C วิตามิน E เกลือแร่ และฟอสฟอรัส จึงช่วยบำรุงประสาท บำรุงไต และ บำรุงสมอง

ข้าวกล้อง
ธัญพืชที่มีไฟเบอร์สูง แถมยังมีโปรตีนอยู่ด้วย การทานข้าวกล้องมีประโยชน์ทั้งในเรื่องของคุณค่าทางอาหาร และระบบการขับถ่ายค่ะ

ข้าวโอ๊ต
มีโปรตีนน้อยกว่า 3% แต่มีเบต้ากลูแคน ที่ช่วยลดคอเลสเตอรอล และยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างแมงกานีส และเซเลเนียม

กีนัว (Quinoa)
อีกหนึ่งธัญพืชที่อุดมไปด้วยโปรตีน และไฟเบอร์ ที่ในปัจจุบันมีคนนิยมนำมารับประทานกันมากขึ้น โดยสามารถนำไปทำขนมปังแทนแป้งสาลี หรือจะนำมาทำเมนูอร่อยๆ อย่างพาสต้า หรือแป้งประกอบอาหารต่างๆ ได้อีกด้วยค่ะ

การหลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ในระยะยาว โดยไม่มีการรับสารอาหารประเภทโปรตีนจากแหล่งอาหารอื่น อาจมีผลทำให้ร่างกายขาดสารอาหารในการสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง อ่อนเพลียง่าย รวมทั้งอาจทำให้ขาดแคลเซียมจนทำให้กระดูกบาง เปราะ ดังนั้น ใครที่หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์ อย่าลืมเลือกทานพืชผักที่อุดมไปด้วยโปรตีน เพื่อเติมพลังงานให้กล้ามเนื้อกลับมาแข็งแรง ไม่อ่อนแอ รวมทั้งทานแหล่งแคลเซียมจากธรรมขาติ เช่น งาดำ เพื่อสร้างสมดุลให้กับร่างกายอีกทางหนึ่งด้วยนะคะ

ซัมเมอร์นี้ ต้องลอง… สูตรสมูตตี้คลายร้อน

เข้าสู่ช่วงปลายเดือนมีนาคม เด็กๆ หลายๆ บ้าน ต่างก็สอบเสร็จ และปิดเทอมซัมเมอร์กันเรียบร้อยแล้ว อากาศร้อนๆ ที่เดาได้ว่าคงจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ อย่างนี้ มาหากิจกรรมสนุกๆ คลายร้อน ให้เด็กๆ ทำกันดีกว่าค่ะ

หน้าร้อนอย่างนี้ อะไรจะดีไปกว่าเครื่องดื่มเย็นๆ ที่ให้ทั้งความสดชื่น กับคุณค่าทางโภชนาการจากผลไม้ อย่างสมูตตี้ ผลไม้ คงจะไม่มี .. วันนี้ ลองมาดูสูตรการทำสมูตตี้ง่ายๆ ให้เด็กๆ ได้สนุก แถมยังอร่อย ชื่นใจ กันในช่วงหน้าร้อนกันซักหน่อย

เริ่มต้นจากสูตรแรกกันเลยค่ะ Melon – Kiwi Smoothie
ส่วนผสมที่ใช้ ก็ไม่ได้ยุ่งยาก สามารถหาได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านได้เลย ที่ต้องเตรียมก็มี กีวีปอกเปลือก 1 ผล นำไปแช่ในช่องแช่แข็งรอไว้เลยค่ะ เมลอนเขียว หั่นเป็นชิ้นประมาณ 100 กรัม นำไปแช่ในช่องแช่แข็งเช่นกัน เติมความหวานซักนิด ด้วยน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำต้มสุก ½ ถ้วย น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ เกลือป่นเล็กน้อยเพื่อความกลมกล่อม และสุดท้าย น้ำแข็งป่น ½ แก้ว
วิธีทำ ก็ง่ายมากๆ ค่ะ นำกีวี และ เมลอน ที่แช่จนเย็นจัดออกมา ใส่รวมกับส่วนผสมทั้งหมด เติมน้ำแข็งป่น แล้วปั่นจนเนื้อสมูตตี้เนียน เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แค่นี้ก็เป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อยค่ะ เทใส่แก้ว แล้วชวนเด็กๆ มาตกแต่งกันตามชอบใจ อาจจะใส่ใบมิ้นท์ซักหน่อย ประดับหน้าด้วยเมลอนกลมๆ กับกีวีสไลซ์บางๆซักชิ้น แค่นี้ ก็ได้สมูตตี้สวยๆ อร่อยๆ มาดับร้อนกันแล้ว
ที่สำคัญ เมนูเครื่องดื่มเย็นๆ แก้วนี้ ไม่ได้มีดีแค่ดับร้อน แต่ยังให้วิตามิน ซี วิตามิน เอ เบต้าแคโรทีน และเต็มไปด้วยไฟเบอร์ กับสารต้านอนุมูลอิสระ อีกด้วยค่ะ

อีกซักสูตร เป็นทางเลือกสำหรับแฟนๆ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ กับ Mixed Berries Smoothie
ใช้วิธีทำเช่นเดียวกัน เพียงแค่เปลี่ยนส่วนผสมของผลไม้ เปลี่ยนมาใช้ ผลสตรอเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่ อย่างละ ¼ ถ้วย นำไปแช่ในช่องแช่แข็งจนเย็นจัด รอไว้ จากนั้น เตรียมน้ำส้มคั้น ½ ถ้วย น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา เกลือป่นเล็กน้อย และน้ำแข็ง ½ แก้ว
นำทั้งหมด ปั่นรวมกันจนเป็นเนื้อเดียว เทใส่แก้ว แล้วประดับตามชอบใจ เพียงเท่านี้ เราก็ได้สมูตตี้สีสวยๆ อีกแก้วมาคลายร้อนกันแล้ว เมนูสวยๆ แก้วนี้ให้ประโยชน์ ทั้งในด้านการเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย บำรุงสายตา และยังช่วยในเรื่องของความจำอีกด้วยค่ะ

เอาล่ะค่ะ ปิดเทอมซัมเมอร์คราวนี้ เด็กๆ คงมีอะไรสนุก ทำกันแล้ว ถ้าให้ดี ลองปรับเปลี่ยนส่วนผสม เลือกผลไม้ที่เด็กๆ ชอบ หรือให้เด็กๆ ได้ลองผสมผลไม้ที่มีทั้งรสเปรี้ยว และรสหวาน ดูว่าผสมอย่างไรถึงจะอร่อยพอดีๆ  พร้อมทั้งให้เด็กๆ ลองหาข้อมูลว่าผลไม้แต่ละชนิดที่เลือกใช้นั้นมีประโยชน์อะไรบ้าง อย่างนี้ ไม่เพียงแต่ให้เด็กๆ ได้คลายร้อน และสนุก แต่ยังจะช่วยเติมความซุกซน เพิ่มจินตนาการ และฝึกการค้นหาความรู้ไปด้วยในเวลาเดียวกันเลยทีเดียวค่ะ … สนุกกันเสร็จแล้ว ใครได้สูตรสมูตตี้อร่อยๆ  สูตรใหม่ๆ อย่าลืมนำมาแบ่งปันกันบ้างนะคะ ^^

เครื่องดื่มคลายร้อน ต้อนรับซัมเมอร์

drink
เข้าสู่เดือนมีนาคม ก่อนจะถึงเดือนต่อไปที่เป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของบ้านเรา อากาศร้อนๆ ก็เริ่มจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ การเลือกทานอาหารให้เหมาะกับอากาศ คงจะช่วยบรรเทาดับความร้อนลงได้บ้าง วันนี้เรามาลองดูกันดีกว่า ว่าเมนูไหนที่เหมาะ หรือ ไม่เหมาะกับช่วงอากาศร้อนๆ แบบนี้บ้าง

เริ่มกันที่ เมนูที่ควรเลี่ยงกันก่อน

“คาเฟอีน”
สาวก หรือ คอกาแฟทั้งหลาย ดื่มกาแฟช่วงหน้าร้อนแบบนี้ต้องระวังนะคะ เพราะคาเฟอีน ถึงจะช่วยกระตุ้นประสาทให้ตื่นตัว แต่บางครั้งอาจทำให้ใจสั่น เกิดอาการกระวนกระวายใจ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องออกไปอยู่กลางแจ้ง เจอกับแดดร้อนๆ เพราะคุณสมบัติอีกด้านของกาแฟคือ เป็นตัวช่วยให้เกิดการขับน้ำออกจากร่างกาย เวลาเราดื่มชา หรือกาแฟ เราอาจจะรู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำบ่อยๆ ช่วงหน้าร้อนร่างกายเสียเหงือในการช่วยปรับอุณหภูมิให้ร่างกายมากอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ค่อยเหมาะกับการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนค่ะ

“เค็มจัด”
เกลือ หรือ โซเดียม ที่แฝงตัวมากับอาหารทั้งหลายในปริมาณที่มากเกินไปจะทำร้ายร่างกายของเราได้ โดยเฉพาะอวัยวะภายในอย่าง ไต ของเรานี่ล่ะค่ะ ช่วงที่อากาศร้อนๆ ไตของเราต้องทำงานหนักอยู่แล้ว ทั้งต้องคอยรักษาน้ำในร่างกายไว้ให้สมดุล เพื่อที่จะไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย และช่วยขับเหงือออกมาดับความร้อน การที่เราทานอาหารที่มีความเค็มสูงจะยิ่งเพิ่มภาระหนักให้กับไตที่จะต้องทำงานหนักขึ้นไปอีก ทางที่ดีร้อนนี้หลีกเลี่ยงอาหารเค็มๆ ดีกว่าค่ะ

“หวานจัด”
หลีกเลี่ยงอาหารเค็มไปแล้ว อาหารหวานก็ต้องระวังนะคะ เข้าหน้าร้อน เมนูของหวานก็มีมาให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นข้าวเหนียวมะม่วง หรือเมนูของหวานประจำหน้าร้อนอย่างๆ ไอศกรีม และ ขนมเค้กต่างๆ เมนูของหวานเหล่านี้เปี่ยมไปด้วยพลังงานทั้งนั้น แถมทานเข้าไปแล้วร่างกายก็จะร้อนรุ่มเพราะร่างกายต้องเผาผลาญพลังงานเหล่านี้ เราจึงรู้สึกไม่ค่อยสบายเนื้อสบายตัวจากข้างใน ทางที่ดีอาหารที่หวานมากๆ ควรจะงดไปในช่วงหน้าร้อนนะคะ

“มันๆ ทอดๆ “
ของทอดต่าง ๆ ไม่ว่าจะขนมกรุบกรอบ ไก่ทอด มันทอด การทานของเหล่านี้เข้าไปก็ไม่ต่างอะไรกับการสุมไฟในตัวหรอกค่ะ เพราะร่างกายได้รับน้ำมันที่มาจากการทอดอาหารเหล่านี้เข้าไปเต็มๆ ทำให้ร่างกายเราร้อน อีกทั้งยังมีผลตามมา ไม่ว่าจะเป็นอาการอักเสบผิวหนัง รวมไปถึงการสะสมในระบบไหลเวียนโลหิต จะยิ่งเป็นอันตรายต่อหัวใจอย่างมากด้วยล่ะค่ะ

“กำมะถัน”
อาหารบางอย่าง เช่น เนื้อแพะ เนื้อวัว หรือเนื้อแดงทั้งหลาย รวมทั้งหอมหัวใหญ่ กระเทียม และผลไม้บางประเภท เช่น ทุเรียน ลำไย ขนุน อาหารพวกนี้ทำให้ร่างกายของเราร้อนได้ง่าย เพราะมีกำมะถันอยู่เยอะค่ะ

“แอลกอฮอล์”
แอลกอฮอล์ช่วยเพิ่มอุณหภูมิให้ร่างกาย ลองดูนะคะเวลาที่เราจิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เราจะรู้สึกร้อนวูบวาบใช่ไหมคะ ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดขยาย เหมาะกับการดื่มในช่วงที่อากาศเย็นๆ แต่หากดื่มในช่วงที่อากาศร้อนๆ อาจมีผลให้เกิดอาการช็อกได้ นอกจากนั้นแอลกอฮอล์ยังมีผลทำให้ตับต้องทำงานหนักขึ้นอีกด้วยล่ะค่ะ

ไม่ได้ห้ามไปหมดเสียทุกอย่างนะคะ เมนูแนะนำที่เหมาะกับหน้าร้อนแบบนี้ก็มีค่ะ ส่วนจะมีเมนูอะไรบ้าง เชิญเลือกกันได้เลย

“ข้าวแช่”
ในข้าวแช่มีวิตาบีจากข้าว ยิ่งถ้าเป็นข้าวไม่ขัดสีก็จะยิ่งมีวิตาบีเยอะ ประกอบกับเครื่องเคียงที่ล้วนอุดมไปด้วยวิตามินเอ ดับร้อนดีนัก ทั้งวิตาบีเอและบี มีประโยชน์ช่วยทำให้ระบบประสาทสงบ และช่วยให้ผิวเย็นลงด้วย

“พริก”
อาจจะสงสัย ว่าทำไมพริกที่ดูเผ็ดร้อนจึงเหมาะกับการทานช่วงหน้าร้อน คำตอบก็คือ เพราะ แคปไซซิน (Capsaicin) หรือ สารที่ทำให้เผ็ดนั้น จะกระตุ้นให้ร่างกายหลังสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) ออกมา และสารนี้เองล่ะค่ะ ที่จะไปช่วยให้เส้นเลือดขยายตัว หัวใจของเราเต้นช้าลง ความดันลดลง เหมาะกับหน้าร้อนๆ เป็นอย่างยิ่ง

“ไลโคปีน”
ไลโคปีน (Lycopene) จะมีส่วนช่วยให้หลอดเลือดขยาย ระบบไหลเวียนของเลือดจะทำงานได้ดีขึ้น ช่วยในการขับไล่ความร้อนออกจากร่างกาย ไลโคปีนนี้มักจะอยู่ในผลไม้ฉ่ำน้ำอย่างเช่น แตงโม มะเขือเทศ มังคุด เป็นต้นค่ะ การทานผลไม้ที่มีไลโคปีนเหล่านี้ยังได้เส้นใยอาหารที่จะไปช่วยในการลดไขมันต่างๆ ซึ่งจะช่วยบรรเทาความร้อนจากภายในร่างกายของเรานั่นเองล่ะค่ะ

“น้ำดื่ม”
แน่นอนค่ะ ช่วงหน้าร้อนเราต้องเสียเหงื่อออกจากร่างกายกันมาก ดังนั้นร่างกายจึงต้องการน้ำมาทดแทนในส่วนที่เสียไป น้ำที่เหมาะกับช่วงหน้าร้อนก็คือนำอุณหภูมิปกตินี่หละค่ะ หรือถ้าร้อนมากหน่อยอาจจะดื่มน้ำเย็นช่วยลดอุณหภูมิร่างกายบ้างก็ได้

เอาล่ะ พอทราบกันบ้างแล้วนะคะ ว่าร้อนนี้ควรจะเลือกทานอาหารแบบไหนจึงจะช่วยคลายร้อน และถึงอุณหภูมิภายนอกจะสูงแค่ไหน แต่ทำกาย ทำใจให้เย็นไว้ก่อนก็จะช่วยได้เยอะเลยล่ะค่ะ