หน้าหนาวกับแสงแดดแรงๆ .. มาเลือกครีมกันแดดกันซักหน่อย


หน้าหนาวมาแล้วค่ะ ลมเย็นๆ เริ่มผ่านมาทักทายกันยาวๆ แล้ว น่าจะถูกใจหลายๆ คนที่รอคอยกันมาทั้งปีเลยทีเดียว แต่หน้าหนาว สิ่งที่ตามมานอกจากผิวแห้งๆ แล้ว คงหนีไม่พ้นแดดแรงๆ ที่พร้อมจะทำร้ายผิวสวยๆ กันได้ตลอดเวลาเลยล่ะค่ะ
แดดแรงๆ ในช่วงหน้าหนาว สาวๆ อย่าลืมหาตัวช่วยไว้บ้างนะคะ ไม่ว่าจะเป็นแว่นกันแดด หมวก ร่ม พกกันให้ครบทีเดียว แต่ที่ห้ามลืมเด็ดขาดเลยคือการทาครีมกันแดดเป็นประจำค่ะ

สาวๆ คงมีครีมกันแดดที่ใช้ประจำกันอยู่แล้ว แต่ครีมกันแดดก็มีคอลเลคชั่นใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ แล้วทีนี้จะเลือกกันยังไงดี…
วันนี้เรามีคำแนะนำดีๆ มาฝากกันค่ะ

ก่อนอื่น ลองเชคสภาพผิวตัวเองก่อนสักนิดว่ามีลักษณะผิวแบบไหน และมีแอคทิวิตี้อย่างไรกันบ้าง

สำหรับสาวๆ ที่ผิวแข็งแรง ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ครีมกันแดดที่เหมาะควรเป็นชนิดครีมค่ะ เพราะเนื้อครีมจะเกาะผิวได้ดี ติดแน่น เวลามีกิจกรรมที่เหงื่อออกมากๆ ครีมก็ยังช่วยปกป้องดูแลผิวเราได้ดีอยู่

สำหรับสาวๆ ผิวบอบบาง เป็นสิวง่าย โดยเฉพาะสิวอุดตันควรเลือกครีมกันแดดชนิดเจล ชนิดน้ำ ที่บางเบากว่าเนื้อครีม แต่สำหรับชนิดนี้สาวๆ ต้องทาซ้ำบ่อยสักนิดเพราะจะได้ปกป้องผิวจากแดดได้ตลอดวันค่ะ

สำหรับหน้าหนาวอากาศแห้ง ที่มากับแสงแดดแรงๆ อาจจะเลือกใช้ครีมแบบเนื้อออยล์ ที่มีน้ำมันผสมเยอะหน่อย เผื่อเพิ่มตวามชุ่มชื้นให้ผิว แต่หลายๆ คนอาจจะไม่ค่อยชอบ เพราะอาจจะทำให้รู้สึกเหอะหนะไม่สบายผิว แถมจะนำสิวมาด้วยนี่สิคะ

เลือกเนื้อครัมที่เหมาะกับผิวได้แล้วก็อย่าเพิ่งประมาทนะคะ เพราะสาวๆ อาจจะนึกว่า เลือกครีมที่มี SPF 50 แล้วจะปกป้องผิวอยู่ได้ทั้งวัน แต่จริงๆ แล้ว ค่า SPF 50 นั้นจะปกป้องผิวได้ประมาณ 500 นาที หรือ 8 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ

อีกเรื่องที่สาวๆ ต้องให้ความสำคัญก็คือ วิธีการทาครีมกันแดดค่ะ ปริมาณที่เหมาะสมคือเหรียญ 50 สตางค์ แต้ม 5 จุด คือ หน้าผาก แก้มซ้ายแก้มขวา จมูก คาง แล้วเกลี่ยให้เสมอกัน อย่าทาบางๆ นะคะ เพราะครีมจะไม่ช่วยปกป้องผิวได้จริง ทาก่อนออกจากบ้านสัก 20 นาทีด้วยค่ะ

การป้องกันผิวสู้แดดร้อนอย่างบ้านเราทำไม่อยากเลยนะคะ แต่ถ้าละเลยแล้วผิวเหี่ยวย่น หน้าเลยอายุไปนี่กลับมาแก้ยากกว่าการป้องกันเยอะเลย ดูแลผิวสวยๆ ของเราให้สดใสแข็งแรงย่อมดีที่สุดค่ะ

รวมความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสุขภาพ พร้อมคำอธิบายที่ถูกต้อง

True-or-False1

เคยมีความเชื่อแบบนี้กันบ้างหรือเปล่าคะ ลองอ่านกันซักนิด ทำความเข้าใจกันซักหน่อย สาระดีๆเกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไปค่ะ

ทานโปรตีนเพิ่ม พละกำลังก็เพิ่ม
ไม่ถูกซะทีเดียวค่ะ เพราะร่างกายของเรามีโปรตีนและไขมันที่เพียงพออยู่แล้ว การเพิ่มปริมาณโปรตีนที่พิเศษไปกว่าโปรตีนที่เราทานตามปกติไม่ได้ช่วยเรื่อง “พละกำลัง” แต่เป็นเรื่องของ “จิตใจ” มากกว่า เราอาจจะเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อทั้งหลาย ที่จูงใจด้วยสรรพคุณของอาหารเสริมโปรตีน ราวกับว่าโปรตีนคือยาวิเศษ แท้จริงแล้วพละกำลังเกิดจากกล้ามเนื้อ การบริหารร่างกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ให้กล้ามเนื้อแข็งแรง จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายในการเพิ่มพละกำลังมากกว่า

น้ำหนักจะเพิ่มขึ้น เมื่อเราอายุมากขึ้น
อาจจะถูกส่วนหนึ่ง เพราะเมื่อเราอายุเพิ่มขึ้น ระบบการเผาผลาญอาหารและพลังงานของร่างกายก็ทำงานได้ลดลง ทำให้เกิดการสะสมในรูปแบบของไขมันส่วนเกินที่มากขึ้น ประกอบกับการสร้างกล้ามเนื้อก็ลดลง เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาไขมันสะสมเพราะไม่ได้ถูกนำไปใช้ เราจึงควรจะกำจัดส่วนเกินเหล่านั้นออกไป แล้วรักษาน้ำหนักให้สมดุล ดีกว่าที่จะปล่อยให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นตามตัวเลขอายุที่เพิ่มมากขึ้นนะคะ

ยาลดความอ้วนทำให้หายจากโรคอ้วน
ยาลดความอ้วนที่โฆษณาและวางขายตามท้องตลาดนั้น ส่วนใหญ่มักเป็นยาขับปัสสาวะ ลดการดูดซึมไขมัน เมื่อใช้ยาอาจส่งผลให้ดูผอมในระยะหนึ่ง แต่เป็นความผอมแบบขาดสารอาหาร ร่างกายทรุดโทรม การลดความอ้วนที่ดีและได้ผลที่สุดนั้นไม่มีตัวยาเฉพาะเจาะจง แต่เป็นการควบคุมอาหาร และปริมาณสารอาหารที่ร่างกายได้รับ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายที่เหมาะสม แน่นอนว่าวิธีดังกล่าวต้องใช้เวลาและความพยายามมากพอสมควรเลยทีเดียวค่ะ

ป่วย ต้องทานยา
จากการปลูกฝังอย่างต่อเนื่องจากการแพทย์แผนปัจจุบันที่เน้นให้ผู้ป่วยทานยา ความจริงแล้ว 90 % ของโรคต่างๆ ร่างกายเราสามารถรักษาให้หายได้ด้วยตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งยา ยาเป็นเพียงตัวช่วยหนึ่งที่ลดอาการของความเจ็บป่วยนั้นๆ ให้ร่างกายได้พักผ่อน สร้างภูมิต้านทานที่จะมาต่อกรกับเชื้อโรคทั้งหลายที่ทำให้ร่างกายบกพร่อง อย่างเช่น ยาแก้ไอ ยานี้ไม่ได้มีผลในการหยุดอาการไอ แต่จะช่วยลดอาการคัดจมูก แก้อาการบวมในคอ สาเหตุของเสียงที่แหบแห้ง เป็นต้น

คนกล้ามใหญ่ แข็งแรงที่สุด
ในการ์ตูนหรือภาพยนตร์มักหยิบยกเอาฮีโร่กล้ามใหญ่เป็นสัญลักษณ์ของจอมพลัง แท้ที่จริงแล้วการบริหารกล้ามเนื้อให้เหมาะกับการใช้งานจะเกิดประโยชน์มากกว่า เพราะการเพาะกล้ามเนื้อนั้น บางครั้งอาจเป็นการเพาะกล้ามเนื้อส่วนเกินที่ไม่เกี่ยวกับการใช้งานจริง แต่กลับเป็นการเพาะกล้ามเนื้อเพื่อความสวยงามมากกว่า หากต้องใช้กำลัง กล้ามเนื้อต้องมีพลังอดทนต่อความเครียดและความกดดันให้ได้ ทั้งยังต้องมีการบริหารร่างกายอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความยืดหยุ่นอีกด้วย

ผู้บริหารส่วนใหญ่มักเป็นโรคกระเพาะ
บทความไหนๆ ก็มักบอกเช่นนี้ แต่จริงๆ แล้ว จากสถิติ เมื่อสำรวจผู้ทำงานในระดับบริหาร กลับพบว่ามีเพียงครึ่งเดียวที่เป็นโรคกระเพาะ เทียบกับลูกจ้างทั่วไปจะพบว่ามีอัตราที่ต่ำกว่ามาก ที่มาคือการรู้จักแบ่งเวลาและการดูแลตนเอง ผู้บริหารส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ เพราะสุขภาพที่ดีเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานที่ดี คนกลุ่มนี้กลับมีร่างกายที่แข็งแรง และสุขภาพที่ดีมากกว่าคนกลุ่มไหนๆ ในออฟฟิศเสียอีก

ทำความรู้จักกับ “นมออร์แกนิค”

milk

โชคดีที่เดี๋ยวนี้คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จึงเริ่มกลับเข้าสู่ธรรมชาติอย่างแท้จริงกันอีกครั้ง ทั้งปุ๋ย น้ำยาเคมี ยาฆ่าแมลง ฮอร์โมนทั้งหลายถูกโยนทิ้ง หันกลับมาใช้วิถีธรรมชาติแบบเดิมๆ เสียที
เลี้ยงแม่วัวอินทรีย์เลี้ยงอย่างไร
วันนี้แม่วัวได้เดินทอดน่องอยู่กลางทุ่ง แปลงหญ้าขนาด 2 ไร่ต่อแม่วัวหนึ่งตัว จึงไม่ทำให้เกิดความเครียดเพราะได้เดินเล่นชิลๆ กลางทุ่งกว้าง ที่กว้างกว่าตอนโดหรูกลางเมืองไม่รู้เท่าไหร่ และเล็มหญ้าที่ปลูกไว้แบบปราศจากสารเคมีตกค้างทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง และสารเคมีทุกประเภท เพราะอาหารของแม่วัวก็ต้องเป็นอาหารอินทรีย์ รวมทั้งต้องไม่มีการใช้ฮอร์โมนกระตุ้นน้ำนม ทั้งหมดนี้จะทำให้นมของแม่วัวเป็นนมที่ผลิตขึ้นมาตามธรรมชาติจริงๆ
นมออร์แกนิค มีดีอย่างไร
ผลจากการเลี้ยงดูแบบธรรมชาติ สิ่งที่ได้ก็คือน้ำนมธรรมชาติจากแม่วัวอารมณ์ดี ที่ปราศจากสารเคมี ฮอร์โมน หรือสารตกค้างใดๆ ทั้งสิ้น น้ำนมออร์แกนิคจากแม่วัวจึงมีคุณภาพที่ดีกว่านมทั่วไปอย่างมาก ทั้งมี Omega – 3 มากกว่านมทั่วไปประมาณ 50% มี Omega-6 มากกว่านมทั่วไป 20 % จึงช่วยบำรุงสมองให้ฉลาดล้ำ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และต่อต้านการเกิดมะเร็งอีกด้วย
วิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อย่างเช่น วิตามิน E วิตามิน A และสารแอนติออกซิแดนท์ในน้ำนมออร์แกนิคนั้น ก็มีในปริมาณที่สูงกว่าน้ำนมทั่วไป จึงช่วยบำรุงผิว บำรุงสายตา และลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีคลอเลสเตอรอล กรดไขมันอิ่มตัว รวมทั้งพลังงานลดลง จึงไม่ทำให้อ้วน ลดอัตราการเกิดไขมันสะสมอุดตันในเส้นเลือด จึงปลอดภัยกว่านมทั่วไป
ความเชื่อเรื่องนมวัวกับโรคภูมิแพ้
สำหรับความเชื่อที่ว่าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ หรือช่วงขวบปีแรกไม่ควรทานนมวัว เพราะทารกจะเสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้หรือมีอาการอยู่ไม่สุขจากสารตกค้าง เช่น ฮอร์โมนที่มีอยู่ในนมวัว ก็จะเปลี่ยนไป เพราะนมออร์แกนิคกลับจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหอบหืด กลาก รวมทั้งภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี
นมออร์แกนิค นอกจากจะทานในรูปแบบของนมสดแล้ว ยังนำมายืดอายุแปรรูปเป็นโยเกิร์ตออร์แกนิค ทานคู่กับผลไม้สด หรือบรรดาธัญพืชชนิดต่างๆ ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากๆ เลยอีกด้วยค่ะ

เลือกอุปกรณ์ดูแลฟันให้สวย สะอาด แข็งแรง

bt.jpg

อุปกรณ์ดูแลฟันเดี๋ยวนี้มีมากมายหลากหลายจนละลานตา ถ้าไม่อยากหยิบผิดหยิบถูกลองฟังทางนี้ค่ะ วันนี้มีข้อแนะนำดีๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์ดูแลฟันมาฝาก จะได้ดูแลฟันให้สะอาดแข็งแรงกันทุกคนเลยค่ะ

แปรงสีฟัน
แปรงสีฟันไม่ว่าจะของวัยไหนสิ่งสำคัญก็อยู่ที่ขนแปรงค่ะ ขนแปรงที่ดีต้องมีลักษณะนุ่มปลายมนเพราะจะไม่ทำร้ายฟันจนสึกค่ะ ด้ามจับก็ควรจะยาวและยืดหยุ่น จับแล้วถนัดมือไม่ลื่นหลุดง่าย แปรงอาจจะมีหัวที่เล็กสักหน่อยเพื่อที่จะได้ทำความสะอาดได้ลึกถึงด้านในของช่องปากบริเวณฟันกรามซี่ในสุด ลองสังเกตดูว่าถ้าเราใช้แปรงที่หัวแปรงใหญ่เกินไป เวลาแปรงเราจะรู้สึกเจ็บกระพุ้งแก้มด้านในและอาจเป็นแผลร้อนในตามมาอีกด้วย

ไหมขัดฟัน
ไหมขัดฟันมีชนิดที่เคลือบขี้ผึ้ง (Waxed Dental Floss) เหมาะกับมือใหม่หัดใช้ไหมขัดฟัน ผู้ที่อุดฟันไว้หลายซี่ หรือขอบฟันไม่ค่อยเรียบ เพราะไหมขัดฟันชนิดนี้จะมีความเรียบ และลื่นเข้าไปในซอกเหงือกซอกฟันได้ดี สามารถใช้งานได้ง่ายเลยล่ะค่ะ
ไหมขัดฟันอีกประเภทหนึ่งคือ ไหมขัดฟันแบบไม่เคลือบขี้ผึ้ง (Unwaxed Dental Floss) เหมาะกับคนที่ใช้ไหมขัดฟันมาซักระยะหนึ่งแล้วจนมีช่องว่างระหว่างฟันเพิ่มขึ้น ไหมชนิดนี้จะมีความคมมากกว่า สามารถกำจัดเศษอาหาร และคราบหินปูนได้ดีกว่าชนิดเคลือบขี้ผึ้ง
นอกจากนั้นยังมีเทปขัดฟัน ที่มีลักษณะคล้ายกับไหมขัดฟัน แต่จะมีขนาดกว้างกว่านิดหน่อยค่ะ

ยาเม็ดฟลูออไรด์ (Fluoride supplement)
ยาเม็ดนี้อุดมไปด้วยฟลูออไรด์ที่ช่วยป้องกันฟันผุ โดยการทำงานของฟลูออไรด์ คือ ไปการรวมกับโครงสร้างฟันเพื่อเสริมโครงสร้างเนื้อฟันให้แข็งแรง ฟันก็จะผุยาก เราสามารถทานฟลูออไรด์ได้เพราะฟลูออไรด์จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับเนื้อฟัน ส่วนมากยาเม็ดฟลูออไรด์จะเป็นที่นิยมสำหรับเด็ก โดยจะให้เด็กๆ เคี้ยวยานี้ให้ละเอียดเพื่อให้ฟลูออไรด์สัมผัสกันฟันทุกซี่เพื่อให้ฟลูออไรด์ทำหน้าที่ได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม แม้ฟลูออไรด์จะมีประโยชน์ แต่การใช้งานก็ควรอยู่ในการดูแลของทันตแพทย์ เพราะถ้าเด็กๆ ได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปจะทำให้เกิดอาการฟันตกกระไม่น่าดูได้เช่นกันค่ะ

ยาย้อมคราบฟัน
ยาย้อมคราบฟันจะเป็นตัวช่วยเนรมิตให้เราเห็นคราบทั้งหลายที่เกาะอยู่ที่ฟันของเราชัดเจนขึ้น ยาย้อมคราบฟันส่วนใหญ่จะมีสีแดง เวลาใช้ยาก็จะต้องเคี้ยวยาก่อนเพื่อให้สีของยาจะไปจับที่คราบฟัน พอเราแปรงฟันก็รู้ว่าจะเน้นตรงไหน แปรงตรงไหนยังไม่หมด จึงเลือกทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

แปรงซอกฟัน
แปรงแบบนี้เป็นแปรงเฉพาะกิจค่ะ ใช้ทำความสะอาดในบริเวณที่เข้าถึงยากจริงๆ แบบที่แปรงสีฟันทั่วไปเข้าไม่ถึงแน่ๆ เช่น บางคนอาจจะมีเหลื่อม ซอกฟัน ที่แปรงได้ยาก หรือสำหรับคนที่ดัดฟันซึ่งอาจมีบริเวณใต้ลวดที่เข้าถึงได้ยาก ข้อควรระวังคือแปรงชนิดนี้ถ้าใช้ไม่ถูกก็อาจไปทำร้ายเหงือกได้ ก่อนจะใช้อาจจะต้องปรึกษาทันตแพทย์กันสักหน่อยนะคะ

ที่ทำความสะอาดลิ้น
ที่ทำความสะอาดลิ้นที่เป็นพลาสติกรูปตัวยูนี้บางท่านก็เห็นว่าเป็นสิ่งจำเป็นเพราะว่าช่วยลดปัญหากลิ่นปากที่คอยกวนใจ และยังเป็นที่สะสมแบคทีเรียตัวร้ายอีกด้วย วิธีการใช้ก็ง่ายแสนง่ายแค่ขูดคราบของเศษอาหารที่เกาะอยู่บริเวณลิ้น เริ่มต้นจากโคนลิ้นสู่ปลายลิ้น โดยอาจจะขูดหลังจากเวลาที่แปรงฟันเสร็จ เพื่อความสะอาดแบบหมดจดจริงๆ อ้อ ข้อดีอีกประการหนึ่งของที่ทำความสะอาดลิ้นก็คือสามารถทำให้ลิ้นรับรสชาติต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

แปรงสีฟันแบบชาร์จไฟได้
แปรงลักษณะนี้ถูกออกแบบมาสำหรับคนที่ไม่สามารถแปรงฟันได้ด้วยตนเองตามปกติค่ะ หรือบางคนอาจจะขี้เกียจขยับแปรงเพื่อปัดฟันก็อาจจะหันมาใช้แปรงสีฟันแบบนี้ก็ได้ การดูแลแปรงสีฟันในลักษณะนี้อาจต้องเช็คในเรื่องของระบบการชาร์จพลังงาน เพื่อการทำงานของแปรงอย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ทั้งหลายเหล่านี้เป็นแค่เพียงตัวช่วย ให้คุณสามารถทำความสะอาดฟันได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่การดูแลฟันนั้นมีมากกว่าแค่เรื่องของความสะอาด เพราะฉะนั้น อย่าละเลยการไปพบทันตแพทย์เป็นประจำทุกๆ หกเดือนนะคะ ถ้าพบปัญหาอะไรจะได้รีบแก้ไขได้ทันค่ะ