ผักบุ้ง ผักพื้นบ้านที่หาซื้อกันได้ทั่วไป กับสรรพคุณมากมายในด้านสุขภาพ วันนี้ ลองมาดูกันซักหน่อยค่ะ ว่าผักบุ้งมีประโยชน์อะไรบ้าง
อย่างที่ทราบกัน อย่างแรกเลย ผักบุ้งอุดมไปด้วยวิตามิน A จึงมีประโยชน์ต่อสายตา ทั้งช่วยบำรุงสายตา ช่วยรักษาอาการตาฝ้าฟาง ต้อ ลดอาการปวดตาเมื่อใช้สายตามากๆ รวมถึงช่วยลดอาการคัน และอักเสบในตาค่ะ นอกจากนั้น ผักบุ้งยังมีส่วนช่วยในการลดระดับของน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน ทั้งยังมีกากใยในปริมาณมาก ที่ช่วยในระบบขับถ่าย ทำความสะอาดลำไส้ และขจัดสารที่ตกค้างในลำไส้
ที่สำคัญ ผักบุ้ง ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยยับยั้งความเสื่อมของร่างกาย ช่วยชะลอวัย และลดการเกิดของริ้วรอยแห่งวัยอีกด้วยค่ะ
ทว่า สิ่งที่น่าสนใจ ที่มากับคุณค่าที่มากมายของผักบุ้ง คือความสามารถในการเจริญเติบโตที่ง่ายอย่างเหลือเชื่อของผักชนิดนี้ค่ะ ผักบุ้ง เป็นผักที่ไม่เรื่องมากเลยจริงๆ เพียงแค่มีปัจจัยในการเจริญเติบโตพร้อม คือมีน้ำ มีสารอาหาร มีอากาศ และแสงแดดไม่มากมาย เพียงเท่านี้ ผักบุ้งก็พร้อมจะทอดยอด ชูใบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ต้องการการดูแลอะไรเป็นพิเศษเลยล่ะค่ะ
ทราบกันแล้ว ทำไมเราไม่ลองมาปลูกผักบุ้งง่ายๆ ในแบบไฮโดรกันซักหน่อยล่ะค่ะ ไหนๆ ช่วงนี้ เด็กๆ ก็เริ่มปิดเทอมกันแล้ว นอกจากจะเป็นกิจกรรมการเรียนรู้สนุกๆ สำหรับบ้านที่มีสมาชิกตัวน้อยๆ แล้ว ยังได้ผักสดๆ ที่สะอาด ปราศจากสารตกค้าง และยากำจัดสัตรูพืช ทั้งยังมีคุณค่าทางอาหารไว้ทานกันในครอบครัวอีกด้วย ใครสนใจ มาเตรียมตัวกันได้เลยค่ะ
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม มีเพียง 1) ตะกร้าแบบมีรูโปร่ง 2) กระบะ หรือถังใส่น้ำ 3) มะพร้าวสับ 4) เมล็ดพันธุ์ และ 5) น้ำปุ๋ยไฮโดร แบบ A+B มีค่า EC=1.6 และ 2.0-2.2
ขั้นตอน เริ่มจากการนำมะพร้าวสับ ล้างให้สะอาด ใส่ลงในตะกร้า ให้สูงประมาณ 2-3 นิ้ว จากนั้น วางตะกร้าลงบน กระบะ หรือถัง แล้วใส่น้ำสะอาดให้ถึงระดับกลางของมะพร้าวสับ เมื่อเสร็จแล้ว ให้โรยเมล็ดพันธุ์ผักบุ้งให้ทั่ว โดยไม่ต้องให้ถี่มาก แล้วนำผ้ามาคลุมไว้ ก่อนนำไปวางในที่ร่ม คอยดูระดับน้ำทุกวัน หากระดับน้ำลดลง ให้เติมน้ำให้ถึงระดับของมะพร้าวสับ
ประมาณ 2-3 วัน ผักบุ้งจะเริ่มมีรากงอกออกมา ให้นำผ้าคลุมออก
ระหว่างนั้น ให้หมั่นดูระดับน้ำอย่าให้ต่ำกว่าระดับของมะพร้าวสับ เพราะจะทำให้ต้นอ่อน แห้งตายได้
จนถึงวันที่ 5 ให้เติมน้ำปุ๋ยไฮโดร ที่มีค่า EC=1.6 และนำกระบะ ออกแดด หมั่นดูระดับน้ำ และ ในวันที่ 14 จึงเติมน้ำปุ๋ยไฮโดร ที่มีค่า EC=2.0-2.2 ปล่อยไว้อีกหนึ่งสัปดาห์ ต้นผักบุ้งจะใกล้โตเต็มที่ พร้อมสำหรับการนำมาปรุงเป็นเมนูอร่อยๆ กันแล้ว ให้ถ่ายน้ำปุ๋ยออก แล้วใส่น้ำสะอาดเพื่อล้างปุ๋ยที่ตกค้างออก ทิ้งไว้ 3-5 วัน จากนั้น ก็ถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลงานกันแล้วค่ะ
ระยะนี้ ผักบุ้งจะมีลำต้นยาว 12-14 นิ้ว ให้ตัดผักบุ้งสูงจากโคนประมาณ 2-2.5 นิ้ว ซึ่งต้นตอที่เหลืออยู่ สามารถนำไปแช่น้ำ ใส่ปุ๋ย ตามขั้นตอนเดิม และจะงอกออกมาได้อีก 2-3 รอบเลยค่ะ
สำหรับผักบุ้งที่ตัดมาแล้ว ก็ถึงเวลานำมาครีเอตเป็นเมนูอร่อยๆ สำหรับมื้อสุขภาพของทุกคนในครอบครัวค่ะ จะผัด จะแกง หรือจะจิ้มน้ำพริก สำหรับผักบุ้งจีน ก็ให้คุณค่าเต็มที่ ไม่ต้องกลัวสารตกค้าง แถมยังเป็นอะไรที่เด็กๆ จะได้ภูมิใจกันอีกด้วย
เอาล่ะ งานนี้ใครพร้อมแล้ว เตรียมลงมือกันได้เลยค่ะ ^^